
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการเงินของไซปรัส ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการลงมติของรัฐสภาไซปรัส เพื่อเป้าหมายที่จะระดมทุนตามข้อกำหนดของเจ้าหนี้ต่างประเทศ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 294.04 จุด และตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงทั้งสิ้น 1.1%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิร่วงลงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากวิกฤตการเงินของไซปรัส โดยล่าสุดทางรัฐบาลไซปรัสเรียกร้องให้สมาชิกสภานิติบัญญัติลงมติรับรองมาตรการฉุกเฉินที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจและการเงิน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ดีดตัวขึ้น 90.54 จุด หรือ 0.63% ปิดที่ 14,512.03 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 11.09 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 1,556. 89 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 22.40 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ระดับ 3,245.00 จุด
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นเมื่อวันก่อน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าวิกฤตการเงินของไซปรัสจะยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนถือครองทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.48% ปิดที่ 1,606.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 28.698 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 51.4 เซนต์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3.10 เซนต์ ปิดที่ 3.466 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,581.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 761.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์
ราคาทองคำตลาดลอนดอนปิดวันทำการล่าสุด (22 มี.ค.) ที่ 1,607.75 ดอลล์/ออนซ์
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) ที่ 6,392.76 จุด เพิ่มขึ้น 4.21 จุด หรือ 0.07% หลังจากพรรครัฐบาลของไซปรัสเปิดเผยว่า อาจจะมีการบรรลุแนวทางแก้ไขวิกฤติหนี้ของประเทศภายในกรอบที่กำหนดขึ้นโดยสพภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้ไซปรัสได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากอียู และจะช่วยให้ไซปรัสสามารถหลีกเลี่ยงการล่มสลายของระบบการเงินและการถอนตัวออกจากยูโรโซนด้วย
*สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ไซปรัสจะสามารถหลักเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้
ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2983 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2916 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5220 จากระดับ 1.5180 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.0445 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0450 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 94.44 เยน จากระดับ 94.91 เยน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลหลังจากมีรายงานว่า กรีซและไซปรัสได้บรรลุข้อตกลงที่จะแยกสาขาของธนาคารพาณิชย์ไซปรัสที่เปิดดำเนินการอยู่ในกรีซ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยปกป้องกรีซ เนื่องจากเงินฝากทั้งหมดในธนาคารของไซปรัสจะได้รับความคุ้มครอง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.26 ดอลลาร์ หรือ 1.36% ปิดที่ 93.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 107.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th