ธนาคารบางแห่งของไซปรัสได้ประกาศใช้นโยบายจำกัดการถอนเงินสดจากตู้ ATM ได้วันละ 100 ยูโร (130 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อวัน เนื่องจากการเจรจาให้ความช่วยเหลือกรีซยังไม่เป็นที่แน่นอนในขณะนี้โฆษกของธนาคารไซปรัส ปอปปูลาร์ แบงก์ ซึ่งก่อหน้านี้ได้จำกัดการถอนเงินจากตู้ ATM เหลือเพียง 260 ยูโรต่อวันนั้น ยืนยันว่า ธนาคารได้เพิ่มการจำกัดการถอนเงินสดจากตู้ ATM ลงอีก เหลือเพียง 100 ยูโรต่อวัน ตามคำแนะนำของธนาคารกลางไซปรัส
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะป้องกันไม่ให้ประชาชนแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร เนื่องจากการเจรจาควบรวมกิจการระหว่างสองธนาคารรายใหญ่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้
สำนักข่าวไซปรัส นิวส์ เอเจนซี รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ไซปรัส โดยยืนยันว่าไซปรัสจะต้องรวมกิจการของธนาคารรายใหญ่ 2 แห่งของประเทศ
ไซปรัส นิวส์ เอเจนซี รายงานโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไซปรัสว่า “ไซปรัสยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกับทรอยกาได้"
เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวระบุว่า สาเหตุที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้เนื่องจากตัวแทนจากไอเอ็มเอฟมีท่าทีที่ไม่ยืดหยุ่น
ด้านตัวแทนในการเจรจารายหนึ่งกล่าวว่า ตัวแทนจากไอเอ็มเอฟได้ทำตามคำสั่งของนางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟอย่างเคร่งครัด ซึ่งระบุว่า ธนาคารแบงก์ ออฟ ไซปรัส จะต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขเดียวกันกับธนาคารไซปรัส ปอปปูลาร์ แบงก์
ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ได้ยอมรับในเงื่อนไขของธนาคารแบงก์ ออฟ ไซปรัสเพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินงานต่อได้ หลังจากที่ยอมแลก 20% ของเงินฝากในธนาคารที่มียอดตั้งแต่ 1 แสนยูโรขึ้นไปกับหุ้นของธนาคาร
เจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟยันยันว่าแบงก์ ออฟ ไซปรัส จะต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน เพื่อคุ้มครองเงินฝากที่ต่ำกว่า 1 แสนยูโรและหนี้ชั้น และส่วนที่ดูแลเงินฝากที่ทียอดสูงกว่า 1 แสนยูโรและหนี้เสีย
ตัวแทนรายดังกล่าวระบุว่า ไอเอ็มเอฟยืนยันว่าส่วนที่ดีของธนาคารทั้ง 2 แห่งจะต้องรวมกิจการกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน
